เราเคยรอไหม?….ก็เหมือนเราสัญญาอะไรกับใครไว้ หรือ เคยสาบานกับเขาไว้แล้วเราลืมไป…เป็นไปได้ครับ
เมื่อคนเรามีสัญญากับใครไว้ จิตจะผูกมัดรัดเกี่ยว หรือ การบนบานศาลกล่าว ถ้าเราลืมจะทำอย่างไร แล้วลองนึกสิ… นึกไม่ออก สุดท้ายมีบทสรุป
จะต้องประกอบกิจ ให้เป็นเครื่องตัด ในสัญญา สาบานนั้น เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุทธจารย์ ได้เคยให้องค์ความรู้แก่ผมว่า…ให้เตรียมดอกไม้ ธูป เทียน หรือ ธูปเทียนแพ ใส่พาน แล้วนิมนต์พระไว้ จากนั้นไปนั่งต่อหน้าพระภิกษุสงฆ์ แล้วก็เล่าความให้ท่านฟังว่า เราไม่สบายใจเรื่องอะไร แล้วก็ทำพิธีโดยไหว้พระ รับศีล แล้วยกพานขึ้นพนม และก็เปล่งวาจาต่อองค์พระปะติมาและพระคุณเจ้าว่า
ด้วยกายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 กรรมทั้ง 10 ประการที่ข้าพเจ้าเคยมีต่อใครในโลกนี้ ทั้งทางกุศล และอกุศล ที่เป็นเครื่องผูกมัด ทั้งมีคำสัญญา คำสาบาน ตลอดจนการบนบานศาลกล่าว ข้าพเจ้าหลงลืมไปแล้ว ด้วยชาติภพในอดีต ด้วยชาติภพปัจจุบัน ข้าพเจ้าขอขมาลาโทษ ข้าพเข้าขอขมากรรม ข้าพเจ้าขอถอนคำสัญญา สาบาน และการผูกมัดนั้น และข้าพเจ้าก็ขออโหสิกรรม ที่ใครก็ตามที่ทำต่อข้าพเจ้าในหนทางเช่นนั้นด้วยเช่นเดียวกัน จงเป็นกรรมที่ถูกอโหสิ จงเป็นกรรมที่ถูกวาง นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเถิด…
เอาละครับ นี่คือ องค์ประกอบที่จะกระทำให้คุณนั้นหลุดจากบ่วงกรรมที่เป็นความทึกข์ในใจ จงปฏิบัติแล้วจะเกิดผลดีครับ